วิธีเทรด Forex: การเทรด Forex คืออะไร และวิธีเริ่มต้น

15 Mar, 2016 ใช้เวลาอ่าน 22 นาที

วิธีเทรด Forex

การเทรด Forex คืออะไร

ตลาด Forex ทำงานอย่างไร

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex

สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

ออเดอร์

เลเวอเรจ, ปริมาณซื้อขาย, มาร์จิ้นที่ต้องใช้

ยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้น, ระดับมาร์จิ้น

ตัวอย่างการเทรด Forex

ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Forex

วิธีเริ่มเทรด

ข้อสรุป

การเทรด Forex คืออะไร

Forex เป็นเหมือนตลาดขนาดใหญ่ที่ผู้คนซื้อขายสกุลเงินต่าง ๆ จากทั่วโลก เช่น ดอลลาร์ ยูโร ปอนด์หรือเยน ตัวอย่างเช่น หากคุณเชื่อว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ คุณอาจแลกดอลลาร์เป็นยูโรตอนนี้ แล้วขายยูโรเพื่อรับเงินดอลลาร์มากขึ้นในภายหลังเมื่อยูโรแข็งค่าขึ้น

กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นทั่วโลก จริง ๆ แล้ว Forex เป็นตลาดเงินที่ใหญ่ที่สุด ผู้คนเทรดสกุลเงินมูลค่านับล้าน ๆ ดอลลาร์ทุกวัน

นอกเหนือจากคนทั่วไปที่เทรดในตลาด Forex แล้ว คุณจะยังเห็นธนาคารและบริษัทใหญ่ ๆ ที่พยายามทำเงินโดยคาดการณ์ว่าค่าเงินจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ดังนั้น จึงมีการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์และการวิเคราะห์ตลาดเพื่อพยายามสร้างเงินกำไรจากตลาดเงินตราต่างประเทศ

สกุลเงินจะถูกซื้อและขายเป็นคู่ เช่น ดอลลาร์สหรัฐและยูโร (EURUSD) หรือปอนด์อังกฤษและเยนญี่ปุ่น (GBPJPY) นักเทรดพยายามคาดการณ์ว่าสกุลเงินใดจะแข็งค่าขึ้นหรืออ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง พวกเขาซื้อสกุลเงินที่คิดว่าจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ขาย

ตลาด Forex ทำงานอย่างไร

ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ ตลาดเปิดทำการในส่วนต่าง ๆ ของโลกในเขตเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้น คุณจึงสามารถเทรดได้เกือบทุกเมื่อที่คุณต้องการ

ในการซื้อขาย ผู้คนใช้โบรกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางเพื่อช่วยซื้อและขายสกุลเงิน โบรกเกอร์เหล่านี้มีแพลตฟอร์ม แอปหรือเว็บไซต์พิเศษที่นักเทรดสามารถส่งออเดอร์อย่างง่ายดาย

ราคาสกุลเงินเปลี่ยนแปลงตามจำนวนผู้ที่ต้องการซื้อหรือขาย ซึ่งเรียกว่าอุปทานและอุปสงค์ ปัจจัยต่าง ๆ เช่น ข่าวเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมืองหรือการตัดสินใจของธนาคารล้วนสามารถกระทบต่อราคาสกุลเงิน ดังนั้น หากคนจำนวนมากต้องการซื้อสกุลเงิน ราคาจะเพิ่มขึ้น หากคนจำนวนไม่มากต้องการซื้อสกุลเงิน ราคาจะลดลง

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex

หากคุณชอบบทความนี้ ดาวน์โหลดประเด็นสำคัญเป็น PDF (ภาษาอังกฤษ)

เรามาดูคำศัพท์พื้นฐานเกี่ยวกับ Forex บางส่วนกัน

คู่สกุลเงิน ใน Forex คุณจะซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งพร้อมกันเสมอ เช่น EURUSD (ยูโรและดอลลาร์สหรัฐ) สกุลเงินแรกของคู่สกุลเงินคือสกุลเงินที่คุณซื้อ (สกุลเงินฐาน) และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินที่คุณขาย (สกุลเงินอ้างอิง) ราคาที่เสนอจะบอกคุณว่าต้องใช้สกุลเงินอ้างอิงเท่าใดเพื่อซื้อสกุลเงินฐานหนึ่งหน่วย

Pip Pip เป็นหน่วยวัดขนาดเล็กที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในราคาสกุลเงิน ในคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ ราคาจะระบุเป็นทศนิยมสี่ตำแหน่ง และหนึ่ง Pip หมายถึงการเคลื่อนไหว 0.0001

เลเวอเรจ เลเวอเรจช่วยให้คุณควบคุมเงินจำนวนมากโดยใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเลเวอเรจ 100:1 คุณสามารถควบคุมเงิน $10,000 ด้วยเงิน $100 เลเวอเรจสามารถเพิ่มเงินกำไรที่อาจได้รับ แต่ก็อาจทำให้คุณสูญเสียเงินเร็วขึ้นเช่นกัน

ราคาขาย (Bid) และราคาซื้อ (Ask) ราคาขายคือราคาที่ได้คุณรับเมื่อคุณขายสกุลเงิน และราคาซื้อคือราคาที่ต้องจ่ายเมื่อคุณซื้อสกุลเงิน ราคาซื้อสูงกว่าราคาขาย และส่วนต่างระหว่างราคาทั้งสองเรียกว่า สเปรด ตัวอย่างเช่น หากราคาขายคือ 1.11443 และราคาซื้อคือ 1.11449 สเปรดจะเท่ากับ 0.6 Pip

ราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขาย

ออเดอร์ในราคาตลาดและออเดอร์ในราคาที่กำหนด ออเดอร์ในราคาตลาดหมายถึงคุณซื้อหรือขายทันที ณ ราคาปัจจุบัน ขณะที่ออเดอร์ในราคาที่กำหนดหมายถึงคุณตั้งราคาที่ต้องการซื้อหรือขาย

การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิค การวิเคราะห์ทางเทคนิคคือการดูกราฟราคาเพื่อคาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป ขณะที่การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานให้ความสำคัญกับข้อมูลต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยและรายงานการจ้างงานเพื่อทำความเข้าใจว่าสกุลเงินแข็งแกร่งแค่ไหน

รอบการซื้อขาย ตลาด Forex เปิดตลอด 24 ชั่วโมงในวันทำงาน แบ่งออกเป็นเขตเวลาต่าง ๆ (เอเชีย ยุโรปและอเมริกาเหนือ) ในแต่ละช่วงเวลาของวัน ระดับกิจกรรมจะแตกต่างกัน รอบการซื้อขายหมายถึงช่วงเวลาที่มีการเทรดเกิดขึ้นมากที่สุดในแต่ละภูมิภาคหลัก

การบริหารความเสี่ยง การบริหารความเสี่ยงมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหมายถึงการกำหนดจำนวนเงินที่คุณสามารถขาดทุนต่อการเทรด หากตลาดไม่เคลื่อนไหวตามที่คุณคาดหวัง และอย่าเสี่ยงใช้เงินลงทุนในสัดส่วนสูงเกินไปต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

บัญชีทดลองเทรด แพลตฟอร์มเทรดมากมายให้คุณฝึกฝนในบัญชีทดลองเทรดโดยไม่ใช้เงินจริง ซึ่งเป็นช่องทางชั้นเยี่ยมในการเรียนรู้วิธีเทรด Forex โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินจริง

บัญชีซื้อขาย หากต้องการเทรด Forex คุณต้องลงทะเบียนกับโบรกเกอร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคุณกับตลาด ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์ที่คุณเลือกเชื่อถือได้และมีแพลตฟอร์มเทรดที่สะดวก

นอกจากนี้ เราจะสำรวจองค์ประกอบบางส่วนของตลาด Forex อย่างละเอียดมากขึ้น เพื่อที่คุณจะสามารถเรียนรู้วิธีเทรด Forex

คู่สกุลเงินและอัตราแลกเปลี่ยน

ทุกสกุลเงินในการเทรด Forex จะเสนอราคาเป็นคู่ (สกุลเงินหนึ่งเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่ง) ชื่อสกุลเงินประกอบด้วยอักษรย่อสามตัวที่เรียกว่า รหัส ISO ซึ่งอักษรสองตัวแรกจะแสดงถึงประเทศ และตัวอักษรที่สามจะเป็นชื่อสกุลเงิน

สกุลเงินสามารถแบ่งออกเป็นสามประเภท ขึ้นอยู่กับว่ามีการเทรดมากน้อยแค่ไหน

  • สกุลเงินที่เทรดมากที่สุดมักจะเรียกว่า สกุลเงินหลัก ประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์อังกฤษ เยนญี่ปุ่น ดอลลาร์แคนาดา ฟรังก์สวิส ดอลลาร์ออสเตรเลียและดอลลาร์นิวซีแลนด์ คู่สกุลเงินหลักประกอบด้วยดอลลาร์สหรัฐและหนึ่งในสกุลเงินอื่น ๆ จากรายการข้างต้น เช่น EURUSD, USDJPY และ USDCHF

  • คู่สกุลเงินรองประกอบด้วยสองสกุลเงินหลัก (ยกเว้นดอลลาร์สหรัฐ) เช่น EURGBP, EURCHF, EURJPY, GBPCAD, GBPAUD และ CHFJPY

  • คู่สกุลเงินหายากประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินที่มีการเทรดน้อยกว่า ตัวอย่างเช่น EURTRY, USDSEK, USDDKK, USDHDK และ USDSDG คู่สกุลเงินหายากมักมีสภาพคล่องน้อยกว่า ซึ่งหมายถึงซื้อหรือขายยากกว่าและมีสเปรดกว้างกว่า

คุณอาจยังต้องการอ่าน: วิธีเริ่มเทรดง่าย ๆ ใน 4 ขั้นตอน, ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับตลาด Forex

ออเดอร์

หากแบ่งตามทิศทาง การเทรดมีสองประเภท ได้แก่

  • ฐานะซื้อหรือ Long จะเปิดที่ราคาซื้อและปิดที่ราคาขาย

  • ฐานะขายหรือ Short จะเปิดที่ราคาขายและปิดที่ราคาซื้อ

แต่ละฐานะสามารถเปิดเป็นออเดอร์ในราคาตลาดหรือออเดอร์รอดำเนินการ

ทิศทาง

ตลาด

รอดำเนินการ

Stop

Limit

Long (ซื้อ)

เปิดที่ราคาซื้อในขณะนั้น

เปิดที่ราคาซื้อที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเหนือกว่าราคาปัจจุบัน

เปิดเมื่อราคาซื้อถึงระดับออเดอร์ โดยราคาซื้อปัจจุบันต่ำกว่าราคานี้

Short (ขาย)

เปิดที่ราคาขายในขณะนั้น

เปิดที่ราคาขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งต่ำกว่าราคาปัจจุบัน

เปิดที่ราคาขายที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งเหนือกว่าราคาปัจจุบัน

ออเดอร์ปิดจะตรงข้ามกับออเดอร์เปิดเสมอ เมื่อคุณปิดฐานะ Long (ซื้อ) คุณขายสกุลเงินออกไป ในทำนองเดียวกัน เมื่อคุณปิดฐานะ Short (ขาย) คุณซื้อคืนสกุลเงินในจำนวนที่ขายไปตอนแรก

คุณสามารถปิดฐานะด้วยตนเอง ณ ราคาตลาดปัจจุบันหรือเมื่อถึงระดับราคาที่กำหนดผ่านคำสั่ง Stop Loss และ Take Profit

  • Stop Loss ออกแบบมาเพื่อจำกัดผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น และตั้งไว้สูงกว่าราคาเปิดสำหรับฐานะขาย และต่ำกว่าราคาเปิดสำหรับฐานะซื้อ

  • Take profit ทำให้คุณสามารถปิดฐานะเมื่อได้รับเงินกำไรที่กำหนด คุณควรตั้งระดับ Take Profit ต่ำกว่าราคาซื้อปัจจุบันสำหรับฐานะขาย และเหนือกว่าราคาขายปัจจุบันสำหรับฐานะซื้อ

หากต้องการทำเงินกำไร คุณต้องปิดฐานะซื้อเมื่อราคาเพิ่มขึ้น และปิดฐานะขายเมื่อราคาลดลง

คำสั่งซื้อ

คำสั่งขาย

เลเวอเรจ, ปริมาณซื้อขาย, มาร์จิ้นที่ต้องใช้

หากต้องการเปิดฐานะ คุณต้องมีเงินจำนวนที่กำหนดในยอดคงเหลือ ซึ่งตามปกติจะเรียกว่า มาร์จิ้นที่ต้องใช้ หรือแค่ มาร์จิ้น จำนวนเงินที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับตราสารเทรด ปริมาณซื้อขายและเลเวอเรจ

  • ตราสารเทรดหมายถึงทุกสิ่งที่คุณสามารถเทรดได้ รวมถึงคู่สกุลเงิน โลหะ น้ำมันหรือดัชนี

  • ปริมาณซื้อขายคือจำนวนที่คุณซื้อหรือขายในหน่วยล็อต โดยหนึ่งล็อตมาตรฐานเท่ากับ 100,000 หน่วยของสกุลเงินฐาน คุณยังสามารถเทรดขนาดมินิล็อต (0.1) และไมโครล็อต (0.01) โดยขึ้นอยู่กับยอดคงเหลือและประเภทบัญชี ปริมาณซื้อขายกำหนดราคาต่อ Pip กล่าวคือ ยิ่งปริมาณซื้อขายมากเท่าไหร่ การเคลื่อนไหวของราคาแต่ละครั้งจะส่งผลกระทบมากเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ราคาต่อ Pip สำหรับหนึ่งล็อตของ EURUSD คือ 10 USD และสำหรับ 0.5 ล็อตของ EURUSD คือ 5 USD คุณสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อคำนวณราคาต่อ Pip สำหรับฐานะต่าง ๆ ได้

  • เลเวอเรจเป็นเครดิตเสมือนที่บริษัทเสนอให้กับลูกค้า ยิ่งเลเวอเรจสูงมากเท่าไหร่ จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องใช้ก็ยิ่งลดลงเท่านั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณไม่ใช้เลเวอเรจ (1:1) คุณต้องใช้เงิน 100,000 EUR เพื่อเปิด EURUSD 1 ล็อต แต่หากเลเวอเรจของบัญชีของคุณอยู่ที่ 1:200 คุณจะใช้เงินเพียง 500 EUR เท่านั้น เลเวอเรจสูงสุดที่ Octa เสนอคือ 1:1000 หรือก็คือคุณใช้เงินเพียง 100 EUR เพื่อเปิดออเดอร์ 1 ล็อต

วิธีใช้เลเวอเรจในการเทรด forex

โปรดทราบว่าหากคุณมีบัญชี USD มาร์จิ้นที่ต้องใช้จะคำนวณดังนี้

(ราคาปัจจุบัน × ปริมาณในหน่วยล็อต × 100,000 หน่วย) / เลเวอเรจ

ตัวอย่างเช่น หากเลเวอเรจของคุณคือ 1:200 และคุณเปิด EURUSD จำนวน 0.5 ล็อต ณ ราคา 1.12931 มาร์จิ้นที่ต้องใช้จะเท่ากับ

(1.12931 × 0.5 ล็อต × 100,000 หน่วย) / 200 = 282.33 USD

แพลตฟอร์มจะคำนวณมาร์จิ้นที่ต้องใช้โดยอัตโนมัติเสมอ หากต้องการตรวจสอบว่าคุณต้องใช้เงินประมาณเท่าใดในการเปิดฐานะ คุณสามารถใช้โปรแกรมคำนวณ Forexของเรา

ยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้น, ระดับมาร์จิ้น

เมื่อคุณเปิดฐานะ ยอดคงเหลือของคุณจะไม่เปลี่ยนแปลง อันที่จริงแล้ว ยอดคงเหลือประกอบด้วยเงินฝาก เงินถอนและการเทรดที่ปิดแล้วเท่านั้น

จำนวนมาร์จิ้นที่ต้องใช้จะถูกหักจากช่อง 'ฟรีมาร์จิ้น' ซึ่งยังประกอบด้วยกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่รับรู้และโบนัสเงินฝาก (หากคุณรับ) ฟรีมาร์จิ้นเป็นเงินทุนที่คุณสามารถใช้เปิดฐานะ โปรดทราบว่าเมื่อคุณเปิดออเดอร์เพื่อป้องกันความเสี่ยงในปริมาณเท่ากัน คุณไม่ต้องใช้มาร์จิ้นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม หากฟรีมาร์จิ้นของคุณติดลบ คุณจะไม่สามารถเปิดฐานะในด้านตรงข้ามได้

ฟรีมาร์จิ้น = ยอดคงเหลือ – มาร์จิ้นที่ต้องใช้ + กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ (+ โบนัสเงินฝาก)

อีกหนึ่งค่าที่ได้รับผลกระทบจากกำไรหรือขาดทุนคือ ยอดสุทธิ ซึ่งคำนวณดังนี้

ยอดสุทธิ = ยอดคงเหลือ + กำไร/ขาดทุนที่ยังไม่รับรู้ (+ โบนัสเงินฝาก)

ยอดสุทธิมีความสำคัญ เนื่องจากเป็นตัวกำหนดระดับมาร์จิ้นร่วมกับมาร์จิ้นที่ต้องใช้

ระดับมาร์จิ้น = ยอดสุทธิ / มาร์จิ้นที่ต้องใช้ × 100% 

หากระดับมาร์จิ้นของคุณต่ำกว่า 15% รายการซื้อขายในตลาดของคุณจะถูกบังคับปิด โดยเริ่มจากการเทรดที่มีผลขาดทุนที่ยังไม่รับรู้สูงสุด

แพลตฟอร์มจะคำนวณยอดคงเหลือ, ยอดสุทธิ, ฟรีมาร์จิ้นและระดับมาร์จิ้นโดยอัตโนมัติและสามารถดูได้ทุกเวลาในแท็บ 'การเทรด'

แท็บการเทรดในแพลตฟอร์ม MT4

ตัวอย่างการเทรด Forex: ซื้อ EURUSD

สมมติว่าอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับ EURUSD คือ 1.09140/1.09180 (ซื้อ/ขาย) อัตราแลกเปลี่ยนนี้แสดงให้เห็นว่าคุณจะต้องใช้เงินกี่ดอลลาร์สหรัฐเพื่อแลกเงินหนึ่งยูโร คุณเชื่อว่ายูโรจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ดังนั้น คุณตัดสินใจซื้อ €20,000

ด้วยอัตรามาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียงเล็กน้อยของมูลค่าการเทรดทั้งหมด มูลค่าการเทรดทั้งหมดของคุณคือ €20,000 x 1.09180 = $21,836 ด้วยมาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียง $109.18 เพื่อเปิดฐานะ

ตัวเลือก A: สถานการณ์กำไร

การคาดการณ์ของคุณถูกต้อง ราคาขยับขึ้น และราคาขาย (Bid) เพิ่มขึ้นเป็น 1.09680 คุณตัดสินใจปิดฐานะโดยการขายในราคาสูงกว่า

  • ราคาขยับขึ้น 50 Pip(1.09680 - 1.09180)

  • เพื่อคำนวณกำไรของคุณ
    €20,000 x 1.09680 = $21,936
    €20,000 x 1.09180 = $21,836

    กำไรของคุณคือ $21,936 - $21,836 = $100

ตัวเลือก B: สถานการณ์ขาดทุน

โชคไม่ดีที่ตลาดไม่เคลื่อนไหวดังที่คุณคาดการณ์ และราคาลดลง ราคาขาย (Bid) ลดลงเหลือ 1.08680 เพื่อลดการขาดทุน คุณตัดสินใจขายที่ราคาต่ำกว่า

  • ราคาลดลง 50 Pip (1.09180 - 1.08680)

  • เพื่อคำนวณการขาดทุนของคุณ
    €20,000 x 1.08680 = $21,736
    €20,000 x 1.09180 = $21,836

    การขาดทุนของคุณคือ $21,736 - $21,836 = -$100

ประเด็นสำคัญ

  • สเปรดราคาซื้อ/ขาย: ราคาขาย (1.09140) คือราคาที่คุณขายได้ ขณะที่ราคาซื้อ (1.09180) คือราคาที่คุณซื้อ

  • การเคลื่อนไหวของ Pip: การเปลี่ยนแปลง 50 Pip (0.00050) ส่งผลให้เกิดกำไรหรือขาดทุน $100 จากการเทรดมูลค่า €20,000

  • มาร์จิ้น: ด้วยมาร์จิ้น 0.5% คุณต้องฝากเงินเพียงเศษเสี้ยวของมูลค่าการเทรดทั้งหมด

ข้อดีและข้อเสียของการเทรด Forex 

ข้อดี

ข้อเสีย

เทรดได้ทุกเวลา คุณสามารถเทรดได้ทุกเมื่อที่ต้องการในระหว่างสัปดาห์ ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมง (วันจันทร์ - วันศุกร์) ดังนั้น คุณสามารถเข้าร่วมได้เกือบทุกเวลา

ความคาดเดาไม่ได้ของตลาด ตลาด Forex เคลื่อนไหวรวดเร็ว สร้างโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักเทรด (แต่มาพร้อมโอกาสขาดทุน) หากไม่มีกลยุทธ์และการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม คุณมีความเสี่ยงขาดทุนเสมอ อย่างไรก็ตาม ด้วยการฝึกฝนและความรู้ที่ถูกต้อง คุณสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้ 

ตารางเวลาของคุณ คุณสามารถเลือกได้ว่าต้องการใช้เวลาในการเทรดนานแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคุณ

ความจำเป็นในการศึกษาอย่างทุ่มเท ตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วอาจมอบโอกาสชั้นเยี่ยม แต่หากไม่มีการเตรียมตัวและความรู้ที่เหมาะสม ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดที่ต้องจ่ายแพงได้ง่าย การสละเวลาเพื่อทำความเข้าใจกลยุทธ์ แนวโน้มตลาดและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว

การกู้ยืมเงิน คุณสามารถเทรดโดยใช้มาร์จิ้น ซึ่งคุณกู้ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเทรดในปริมาณมากขึ้น ทำให้คุณมีศักยภาพในการทำกำไรของคุณมากขึ้น

การเทรดโดยใช้มาร์จิ้นมีความเสี่ยงสูงกว่า เมื่อคุณกู้ยืมเงินและเทรดด้วยเงินจำนวนมากขึ้น นั่นจะช่วยให้คุณสร้างเงินกำไรมากขึ้น แต่ก็หมายความว่าคุณอาจสูญเสียเงินมากขึ้น หากไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์

ศักยภาพในการประกอบเป็นอาชีพ หากคุณเข้าใจจริง ๆ ว่าตลาดทำงานอย่างไร การเทรดอาจกลายเป็นงานเต็มเวลาสำหรับคุณได้

ความคาดหวังสูง Forex มักถูกโฆษณาในลักษณะที่ทำให้ฟังดูง่ายและทำกำไรได้ หลายคนคิดว่าพวกเขาจะรวยอย่างรวดเร็วและหงุดหงิดเมื่อไม่เห็นผลลัพธ์ทันที อย่างไรก็ตาม การเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ

วิธีเริ่มเทรด

สิ่งที่คุณต้องทำเพื่อเริ่มเทรด Forex คือเปิดบัญชีบนเว็บไซต์ของเราหรือดาวน์โหลดแอปซื้อขาย Octa

บัญชีทดลองเทรดทำให้คุณสามารถฝึกฝนโดยปราศจากความเสี่ยงและไม่ต้องใช้เงินจริง ขณะที่การเทรดในบัญชีจริง คุณจะได้สัมผัสกับตลาดจริงด้วยเงินฝากขั้นต่ำ

ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าตลาด Forex ทำงานอย่างไร เครื่องมือและเทคนิคที่คุณสามารถใช้ หรือกลยุทธ์ที่คุณสามารถใช้ในส่วน Forex เบื้องต้น ของเว็บไซต์ของเรา

หากคุณมีคำถามเกี่ยวกับตลาด เว็บไซต์ Octa หรือเงื่อนไขการเทรด คุณสามารถดูในส่วนคำถามที่พบบ่อยที่ครอบคลุมของเรา

เมื่อใดก็ตามที่คุณพบศัพท์ คำหรือปรากฏการณ์ในตลาดที่ไม่คุ้นเคย คุณสามารถดูความหมายและคำอธิบายในส่วนอภิธานศัพท์ Forex

ฝ่ายบริการลูกค้าที่ได้รับรางวัลของเรายินดีอย่างยิ่งที่จะตอบคำถามของคุณตลอด 24/7 

ข้อสรุป

  • โดยหลักการแล้ว การเทรด Forex คือการแลกเปลี่ยนเงินตราจากประเทศต่าง ๆ 

  • การเทรดจะทำเป็นคู่ เช่น ยูโรและดอลลาร์ และคุณพยายามทำเงินโดยคาดการณ์ว่ามูลค่าของคู่สกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

  • หากคุณคิดว่าสกุลเงินหนึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น คุณก็ซื้อ หากคุณคิดว่ามูลค่าจะลดลง คุณก็ขายออกไป 

  • นักเทรดใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น กราฟที่แสดงการเปลี่ยนแปลงของราคา รวมถึงอัปเดตและข่าวเศรษฐกิจ เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจว่าจะซื้อหรือขายเมื่อใด

  • โปรดอย่าลืมว่าถึงแม้คุณจะทำเงินได้ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินเช่นกัน ดังนั้น การศึกษากลยุทธ์การเทรด Forex และติดตามข่าวสารในตลาดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วย Octa Space ฟีดสดพร้อมแนวคิดการเทรดล่าสุดในแพลตฟอร์มเทรด OctaTrader แม้แต่นักเทรดมือใหม่ก็สามารถเข้าใจตลาดได้ดีขึ้นและเปิดการเทรดแรก

มาเป็นนักเทรดมืออาชีพกับ Octa

สร้างบัญชีและเริ่มฝึกฝนตอนนี้

Octa